ชาลา เฮด ชาลา…
ชาลา เฮด ชาลา นานี้ กา โอกิเตะ โม คิบุน ว่ะ ฮิโน ฮิโน คัปปาาาาา ชาลา เฮด ชาลา มูเน๊ กา พาชิ พาชิ ซูรู โฮโด ส่าวากู เกงคิ ดามา…
คุ้นป่าว คุ้นป่าว อุตส่าห์มาฮัมเพลงให้ฟังเลยนะเนี่ย ใครเห็นท่อนสร้อยแล้วร้องอ๋อ แสดงว่าวัยยังได้อยู่ ส่วนคนที่งง งง ว่ามันบ่นอะไรฟ่ะ เกิดมาไม่เคยได้ยิน ก็อืมมมมม อาจจะอยู่มานานนนนนนแระ จะแอบไปร้องถามลูก ถามหลาน ก็ไม่ว่ากัน (หวังว่าคงจะไม่ต้องถามถึงรุ่นเหลนนะ)
แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวไรกับเพลงนี้หน่ะเหรอ ก็ไปเที่ยวอยู่ดี ดี บังเอิญจับพลัดจับผลูไปตามรอยตำนานดราก้อนบอลโดยไม่รู้ตัว เที่ยวคราวนี้ก็เลยเดินฮัมเพลงนี้ไปตลอดทาง…..
จุดหมายที่แท้จริงของการออกเดินคราวนี้คือ คามากุระ ที่นี่สำคัญยังไง และมีอะไรน่าสนใจ ขออุบไว้เฉลยตอนหน้า ใครที่รู้แล้วก็เม้มปาก อดใจไว้ก่อน อย่าพึ่งเฉลยไปนะ…
ระหว่างทางไปคามากุระ ก็ขอแอบเถลไถลไปเกาะอิโนชิม่ะก่อน ทางผ่านหน่ะ ทางผ่าน กะเดินทอดน่องชมเกาะ เพลิน เพลิน มารู้ตัวอีกทีทั้งน่อง ทั้งขาก็ชาจนหมดความรู้สึกไปแล้ว….
เกาะนี้ไม่ได้อยู่ไกลจากแผ่นดินใหญ่ซักเท่าไหร่ มีสะพานทอดไปถึงเกาะ สะพานคอนกรีตเสริมเหล็กเชียวนะ จะเดินไปก็ได้ หรือถ้าอยากจะนั่งเรือไปก็ได้เหมือนกัน ขาเข้มแข็งอย่างเราจะไปพึ่งเรือทำไม เดินสิคร้าบบบ เดิน แท่ก แท่ก แท่ก แท่ก …
ระหว่างข้ามสะพาน ก็เห็นยัยนี่นอนอาบแดด สบายอารมณ์อยู่กลางสะพานซะตัวดำปิ๊ดปี๋
ประติมากรรมข้างทาง…..ไร้คำบรรยาย
มองเห็นเกาะอยู่ลิบๆ เริ่มเห็นชะตากรรมตัวเองอยู่ลาง ลาง ส่วนป้ายนี้ใครอ่านออกช่วยบอกที…
ใกล้เข้าไปอีกนิด…ชิด ชิดเข้าไปอีกหน่อย…
ตรอก ซอกซอยในเกาะ….ไมคนมันเยอะอย่างนี้วุ้ย….
เจ้าเหมียวตัวนี้ มานั่งหว่านเสน่ห์ให้คนเดินผ่านไปผ่านมา คนรุมถ่ายรูปกันตรึม….ได้มารูปนึงเหมือนกัลล์
ต้องเดินไต่ขึ้นข้างบน…เอ๊าเตรียมยกขาซ้าย ยกขาขวา
ฮะ ฮ่า แต่คราวนี้มีตัวช่วย บันไดเลื่อนนนนนนน แต่ไม่ได้ช่วยเปล่าๆ ต้องจ่ายตังค์ให้เค้านะ ไม่งั้นเค้าจะไม่ช่วย
ห่วงนี้ไม่รู้ว่าลอดเพื่ออะไร แต่เห็นคนเข้าคิวยาวเฟื้อยยยยยยย ไม่ได้ไปต่อคิว เพราะกลัวว่าอธิษฐานไปแล้วท่านจะฟังไม่รู้เรื่องอ่ะ เดี๋ยวแปลกันผิดๆ ถูกๆ จะยุ่งกันไปซะเปล่าๆ…
แผงนี้เป็นเครื่องรางของขลัง ส่วนที่เห็นห้อยอยู่ด้านหลังน่าจะเป็นคำอธิษฐานเรื่องความรัก เพราะป้ายก็สีชมพู แถมมีรูปหัวใจอีกตะหาก ว่าแล้วก็เดินยักไหล่ผ่านปายยยยย
ด้านนี้คงเป็นการอธิษฐานแนวครอบครัว ขอให้บ้านเราสงบสุข…มั๊ง
ส่วนนี่ ยากเกินจะเดา…
แล้วก็มาเจอตาลุงคนนี้ กระเป๋ามันไม่อยากไป ก็จะบังคับให้มันไปอยู่นั่น อย่าไปบังคับเค้าเลยลุ๊งงงงงงง
เกาะนี้ไม่ได้มีเฉพาะแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้บนบานศาลกล่าวเท่านั้นนะ แนวสวนๆ ธรรมชาติก็มีเหมือนกัน สวนนี้ดังที่สุดบนเกาะ
พอเข้าไปถึง…ก็เจอสะ สะ สะ สวน…..เหรอ?
พยายามเล็งอยู่นาน ในที่สุดก็เจอ ดอกแบบนี้แหล่ะ ถูกจ๊าย ถูกจายยยย (เรียบง่าย และเป็นกันเอง)
ส่วนนี่ นาฬิกาป่าว หรือว่าจะเป็นที่ใบ้หวย (ก็เห็นมีตัวเลขอ่ะ) หรือว่าจะเป็น….อะไรน๊าาาาา เดาไม่ถูกแระ
ไม้ล้มข้ามได้ แต่ไม้กำลังจะล้ม ลอดได้ป่ะ
ประภาคารนี้เป็นไฮไลท์ของเกาะ ต้องลองขึ้นไปซะหน่อย…อ๊ะ อ๊ะ อย่าคิดนะว่าจะฟรี
ว๊าว…ขึ้นไปก็เห็นวิวแบบนี้…
แล้วก็บังเอิ๊ญ บังเอิญ เห็นฉากการไล่ล่า…เรือผู้ร้าย อ๊ะนางเอกอยู่ในเรือ โดนผู้ร้ายจับไป
เรือพระเอกไล่ตามมา…
อ่ะฮ้า ตามทันจนได้….
แต่สุดท้าย ก็ไม่มีอะไรในกอไผ่…แฮะ แฮะ ฟุ้งซ่านไปเอง
ต้องไหว้พระ ระงับความฟุ้งซ่านซะหน่อย
อีกซักองค์…
ส่วนทางนี้น่าจะเป็นคู่รักที่อยู่กันจนถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชรมั๊ง ยิ้มแบบสุขสุด สุด จนคนดูถึงกับตาร้อนผ่าว (ขนาดรูปปั้นยังอิจฉาเลย ขี้อิจฉาจริงๆ เลยเรา)
หินแบบนี้ ถ้าเห็นที่เมืองไทย ไม่ต้องเดาเลย … ต้องมีคนไปขัดๆ ถูๆจนเงาวับแน่นอน ส่วนที่นี่….ไม่รู้ดิ
รูปปั้นนี้ก็ไม่รู้เหมือนเดิม แต่ดูแล้วสะพรึงงงงงงง….
บ้านใครกุญแจหาย มาหาเอาที่แผงนี้…
เกริ่นมาซะเกือบจบ ยังไม่เกี่ยวกับดราก้อนบอลเลย…มาแว้ว เทพเจ้ามังกร
ผู้เฒ่าเต่ามารอต้อนรับ
จะตามหาดราก้อนบอล ต้องเข้าไปในถ้ำ….การผจญภัยกำลังจะเริ่ม ตื่นเต้ล ตื่นเต้ล
ว้าว….ถ้ำมืดมาก….
จินตนาการไว้อย่างหรูว่าจะได้ตะลุยเสี่ยงภัย ประมาณอินเดียนน่าโจนส์ ปรากฎว่า มีไฟติดประดับไปตลอดทาง ด้านบนถำ้ก็มีตะแกรงเหล็กกันหินร่วง แถมช่วงไหนที่เป็นช่วงต่ำๆ ก็มีโฟม หรือฟองน้ำบุผนังด้านบนกันหัวกระแทก แล้วก็มีป้ายแบบเนี้ยะเตือนไปตลอดทาง อันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ก็มีอยู่ 2 อย่างคือ ระหว่างที่เดินเรียงคิวก้มหัวอยู่ในถ้ำ หัวอาจจะไปกระแทกกระเป๋าเป้คนข้างหน้าได้ แล้วก็ก้มมากๆหลังก็อาจจะเคล็ดขัดยอกได้เหมือนกัน … เฮ้อ ปลอดภัยซะจนไม่เหลือเรื่องให้หนูไว้ตื่นเต้นเลยหรือคะคุณพี่….
เมื่อเดินต่อแถวมาจนสุดทาง ในที่สุดก็ได้เจอ….ดราก้อนบอลลลลล… เอ แต่ในเรื่องบอกว่ามี 7 ลูก แล้วนี่ทำไม….เยอะซะ งี้ก็อธิษฐานได้หลายเรื่องเลยดิ…
ตำนานดราก้อนบอลก็เลยสิ้นสุดที่ตรงนี้ แต่การเดินทางยังไม่สิ้นสุด ก็เดินขึ้นมาแล้ว ก็ต้องมีเดินลงดิ แต่ทำไม๊ ไม่มีใครเตือนว่าตัวช่วยมีแค่ขาขึ้นเท่านั้น ขาลงต้องพึ่งตัวเองล้วนๆ มีเงินก็ช่วยไม่ได้แล้วคราวนี้ เฮ้อ….ขอโผล่หน้าไปนอกถ้ำ ไปสูดอากาศซะหน่อย
ระหว่างทางที่เดินย่ำต๊อกลงมา ถึงแม้เส้นทางจะไม่ได้สวนกระแสแรงดึงดูดของโลก แต่มันก็ต้องมีเติมพลังกันบ้างจิ…
จากบนเตาก็ลอยมาอยู่ในมือ…จนได้ รสชาติใช้ได้
เมนูนี้น่ากินมั่ก มั่ก
มาแว้ว อืม…คงต้องบอกว่าสวยแต่รูป ชิมไปแล้วเค็มมากกกกก (เค็มจนขม) ไม่รู้เอาน้ำทะเลใส่ลงไปป่าว
สำหรับแผงนี้ เลือกปลาหมึกละกัน
ขอคาร์โบไฮเดรตบ้างนะ…มีหลายรสให้เลือก
เลือกรสนี้ เซเว่น…สไปซ์ กร๊อบ กร๊อบ งั่ม งั่ม หล่นกระจาย…
เติมพลังเป็นระยะ ระยะ จนในที่สุดก็หลุดออกมาจากเกาะจนได้ รวมเวลาวนเวียนอยู่ในเกาะก็ร่วม 5 ชั่วโมง คงต้องขอกราบลาเทพเจ้ามังกร ไปก่อนนะเจ้าคะ การเดินทางยังไม่สิ้นสุด เท้ายังต้องย่ำต๊อกต่อไป……
เทพเจ้ามังกร .. ทำไปด๊ายยย
แล้ไปกินตัวอะไรอ่ะ หอยเหรอ??
Comment by TiPz | 2009/09/26 |
ใช่แล้ว…
Comment by nsupaton | 2009/09/26 |
ไปอยู่ต่างแดนนานไปหรือป่าวพี่ จิตนาการของท่านพี่บรรเจิดขึ้นทุกวันเลย กลับมาเป็นนักเขียนได้เลยนะเนี้ย
Comment by nuk | 2009/09/28 |
คิดด้วยหลักตรรกะล้วน ล้วนเลยนะเนี่ย….
Comment by nsupaton | 2009/09/28 |
สวยแแต่รูป มาแบบปักเป็นกระถางธูป เลยนะ อิอิ
Comment by พี่เค็ง | 2009/09/28 |
อืม…พอพี่เค็งทักก็เริ่มคิดว่าจริงแฮะ…
Comment by nsupaton | 2009/09/28 |